เขียนโดย นันทรัตน์ สันติมณีรัตน์ ภาพประกอบโดย พี่หมวก
เด็กๆ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ามหัศจรรย์ ซึ่งในการสร้างมนุษย์มหัศจรรย์ ตัวน้อยเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดังที่พ่อแม่หวัง ต้องอาศัยมากกว่าเงินทอง นั่นคือ ต้องมีความรักและเวลาเป็นองค์ประกอบหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกประการหนึ่งคือความเอาใจใส่ในพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่ แรกเกิดในท้องคุณแม่ และ ‘หนังสือภาพ’ เป็นเครื่องมือสื่อสารอันดับแรกๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการแบบรอบด้านให้หนูๆได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงตอนโต หนังสือเล่มแรกของหนู เมื่อปี พ.ศ. 2535 นักวิจัยในประเทศอังกฤษจัดทำโครงการหนังสือเล่มแรก (Bookstart) โดยแจกหนังสือเล่มแรกให้ครอบครัวที่มีเด็กเกิดใหม่ เพื่อใช้เป็นสื่อในการพัฒนาเด็ก และติดตามผลไปจนถึง 7 ขวบ พบว่าเด็กๆ จากโครงการนี้ มีความสามารถในการอ่าน เขียน การคิดคำนวณสูงกว่าเพื่อนๆ ในห้องเรียนเดียวกันที่ไม่ได้ร่วมโครงการ
ส่วนในประเทศไทย งานวิจัยในโครงการ Bookstart พบว่า หนังสือเป็นสื่อที่ช่วยสานสัมพันธ์ ในครอบครัวพร้อมสร้างพื้นฐานการอ่านและกระตุ้นพัฒนาการระบบประสาทสัมผัสทางอารมณ์และจินตนาการของเด็กได้
หนูยังอ่านไม่ออก แล้วทำไมต้องอ่านนิทานให้หนูฟังตั้งแต่เด็ก แท้จริงแล้ว เซลล์สมองของเด็กๆ มีการพัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เด็กจึงเกิดมาพร้อมเซลล์สมองที่พร้อมเรียนรู้และสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เห็นหรือเสียงที่ได้ยิน ซึ่งสมองส่วน รับรู้เสียงและถ้อยคำจะเติบโตได้ดีในช่วงขวบปีแรก ส่วนการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆ จะเปิดกว้างเต็มที่ในช่วงขวบปีที่สอง ในช่วงนี้จึงเป็นเวลาเหมาะสมให้เด็กๆ เรียนรู้ภาษาต่างๆ ไปจนถึงสิบขวบที่ความสามารถในการรับภาษาใหม่ๆ จะเริ่มลดน้อยลง
หนังสือภาพเป็นแค่หนังสือสำหรับเด็กเท่านั้นหรือเปล่า ในหลายๆ ครั้ง หนังสือภาพเป็นมากกว่าหนังสือ โดยเฉพาะสำหรับเด็กอายุน้อยๆ อย่าง ในวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน ซึ่งความสามารถในการใช้สายตายังพัฒนาไม่เต็มที่ หนังสือภาพสำหรับ เด็กวัยนี้จึงเป็นมากกว่าหนังสือ คือมีสถานะเป็นของเล่นร่วมด้วยเมื่ออยู่ในมือเด็ก อ่านหนังสือภาพแบบไหนที่จะทำให้หนูมีพัฒนาการที่ดี.. มีชัยไปกว่าครึ่ง ‘หนังสือภาพ’ ที่ดีสำหรับเด็กเล็กควรเน้นการพัฒนาทักษะการมอง และการสัมผัส ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นแรกๆ สำหรับเด็ก และต้องไม่ลืมพัฒนาการ ทางด้านอารมณ์และสังคมด้วย ที่สำคัญคือเนื้อเรื่องควรมีประเด็นน้อยแต่ชัดเจน
เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี: ควรเป็นหนังสือที่มีภาพใหญ่ ชัดเจน มีสีสัน ต้องเป็นภาพที่เหมือนจริง (realistic) มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัวของเด็ก เช่น ร่างกาย สิ่งของ อาจใช้เป็นพวกหนังสือฟองน้ำนิ่มๆ ให้เด็กได้สัมผัส เพื่อฝึกกล้ามเนื้อเล็ก เด็กจะได้ฝึกร่างกายและสมองไปพร้อมๆ กัน
เด็กวัย 1-2 ปี: ควรมีเนื้อหาดึงดูดใจ เพราะเด็กๆ เริ่มจำ เข้าใจเรื่องรอบตัว และสนุกกับการเปิดหนังสือด้วยตัวเอง
เด็กวัย 2-3 ปี: ควรเป็นหนังสือภาพคน สัตว์ สิ่งของ นำเสนอในรูปแบบ คำคล้องจอง เพราะเป็นช่วงวัยที่เด็กสามารถพัฒนาทักษะด้านภาษา และควรเริ่มพัฒนาด้านสังคม อาจแฝงไปกับการสอนคำศัพท์เรื่องครอบครัว เช่น ปู่ยา ตายาย
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลความรูปที่น่าสนใจอีกมากมาย
หนูควรอ่านหนังสือสองภาษาตั้งแต่เล็กๆ เลยดีไหม ?
วิธีการอ่านสำหรับนิทานสองภาษาในหน้าเดียว ?
ภาพประกอบในหนังสือที่เหมาะกับเด็กเล็กอย่างหนูควรเป็นอย่างไร ?
เทคนิคง่ายๆ ในการใช้หนังสือภาพให้คุ้มค่า
เมื่อพ่อแม่อ่านหนังสือภาพให้หนูฟัง นอกจากการเรียนรู้พัฒนาการต่างๆ ในหนังสือ หนูจะได้อะไรอีกไหม ?
จำเป็นต้องอ่านหนังสือภาพให้หนูฟังแค่ก่อนนอนหรือเปล่า ?
คุณพ่อคุณแม่จะได้อะไรจากการอ่านหนังสือภาพกับหนู ?
ฯลฯ
บทความจาก https://zzzmagazine.wordpress.com/2014/11/17/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89/
หน้าที่เข้าชม | 36,860 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 24,256 ครั้ง |
เปิดร้าน | 2 ก.พ. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ก.ย. 2568 |